“เดินทางไปรอบโลกแล้วไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันนะ” ตามหาความรักที่หล่นหายจากรูปถ่ายของเธอ
Published : เมษายน 26, 2024 | Blog | Editor :
“เดินทางไปรอบโลก แล้วไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันนะ”
นี่คงเป็นประโยคบอกรักที่ไม่มีคำว่า ‘รัก’ ที่ฟูจิชิโระตั้งใจมอบให้ฮารุ แต่สุดท้ายแล้วสัญญากลับไม่เป็นจริงและความรักของพวกเขาก็ต้องจบลงแบบค้างคา จนกลายเป็นที่มาของจดหมายหลายฉบับที่ฮารุส่งถึงอดีตคนรักของเธอขณะเดินทางไปตามประเทศต่าง ๆ ที่ทั้งคู่เคยวางแผนไว้ด้วยกัน
ฟูจิชิโระและฮารุพบกันในชมรมถ่ายภาพของมหาวิทยาลัย ภาพถ่ายจึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในหนังและนวนิยายเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นสิ่งที่บันทึกความทรงจำแล้ว ภาพนั้นยังเปิดเปลือยความรู้สึก และสื่อสารถึงความในใจของทั้งคู่ได้ดีกว่าคำพูดใด ๆ
ครั้งหนึ่งที่พวกเขาได้ไปออกทริปถ่ายรูปด้วยกัน ฟูจิชิโระเคยถามว่า “เธออยากถ่ายรูปแบบไหนเหรอ” ฮารุตอบว่า “ฉันอยากถ่ายภาพของกลิ่นสายฝน อากาศร้อนอบอ้าวของเมือง เสียงเพลงที่แสนเศร้า เสียงแห่งความดีใจ ความรู้สึกชอบใครบางคน อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ”
แม้คำตอบของเธอจะเป็นสิ่งที่ถ่ายรูปไม่ติด แต่ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ฮารุตั้งใจจะกดชัตเตอร์เพื่อบันทึกห้วงเวลาที่ความรู้สึกอันไร้รูปร่างเหล่านั้นปรากฎอยู่เอาไว้
เมืองอูยูนี ประเทศโบลีเวีย
เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์
ทั้งสามแห่งนี้อยู่ในความทรงจำครั้งสุดท้ายของฮารุ เราจึงอยากพาทุกคนไปสำรวจความงามและความหมายของสถานที่เหล่านั้นด้วยกัน เผื่อว่าเรื่องราวข้างหลังภาพจะสะกิดให้คุณนึกถึงความทรงจำบางแห่งที่เผลอลืมไปแล้ว
เมืองอูยูนี ประเทศโบลีเวีย
ฮารุบรรยายฉากเปิดเรื่องที่สวยจนต้องกลั้นหายใจแห่งนี้ไว้ว่า
“เมืองนี้ห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบเกลือสีขาวบริสุทธิ์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,700 เมตร อากาศเบาบาง แต่สะอาดบริสุทธิ์ บนท้องฟ้าสีอ่อนมีเมฆก้อนกลมลอยอยู่ ถ้าฝนตกลงในทะเลสาบเกลือนี้ น้ำจะขังอยู่ตื้น ๆ กลายเป็นกระจกเงาขึ้นมา กระจกนั้นสะท้อนภาพของท้องฟ้า จนเห็นโลกเบื้องหน้าตรงนั้นกลายเป็นท้องฟ้าไปหมด”
เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ที่ใจกลางเมืองปรากมีนาฬิกาที่เดินไม่เคยหยุดมา 600 ปีแล้ว นาฬิกาเรือนนั้นตั้งอยู่ในจัตุรัสเมืองเก่า เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ณ เวลานั้น เช่น ตำแหน่งของกลุ่มดาว เวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก
เวลาของปัจจุบัน อดีต และอวกาศ เกี่ยวพันซ้อนทับกันอยู่บนนาฬิกาเรือนเดียวนี้
นาฬิกาดาราศาสตร์ในเมืองปรากคือจุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ ฮารุตั้งใจถ่ายภาพนาฬิกาเรือนยักษ์ไว้หลายรูปเพราะเธออยากถ่าย ‘เวลา’ เอาไว้
เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์
สิ่งที่แนบมาพร้อมจดหมายฉบับสุดท้ายคือรูปของหาดทรายสีดำขลับเหมือนน้ำหมึก
‘ชายหาดเรย์นิสฟายาร่า’ เป็นชายหาดดำสีดำสนิท ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ เมืองเรคยาวิก ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ บ้านสีขาวหลังเล็ก ๆ ที่มีหลังคาทรงสามเหลี่ยมสีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว เหล่านั้นทำให้เมืองนี้มีลักษณะเหมือนของเล่นจำลองขนาดจิ๋ว คล้ายกับสถานที่จากดวงดาวอื่นที่ใม่ใช่โลกใบนี้
ฮารุชอบเวลาฝนตกแดดออก เธอจึงชอบไอซ์แลนด์มาก เพราะฝนตกแดดออกของประเทศนี้จะมาพร้อมสายรุ้งเสมอ เหนือทะเลสาบเชอร์โทนินมีรุ้งกินน้ำครึ่งวงกลมขนาดใหญ่พาดอยู่ และมีฝูงหงส์ว่ายน้ำเล่น
-
Product on saleเดือนเมษายน พาใครบางคนกลับมา
฿249฿212
แท็ก
Related Content
มองความรักผ่านปรัชญา ‘Wabi Sabi’ รักที่ไม่สมบูรณ์และไม่สมหวัง ทำไมถึงยังสวยงาม
มองความรักผ่านปรัชญา ‘Wabi Sabi’ รักที่ไม่สมบูรณ์และไม่…
ส่องเทรนด์โลก 2030 ปรับตัวก่อนโลกเปลี่ยน
ไม่ใช่แค่เพราะโควิด-19 โลกถึงเกิดความเปลี่ยนแปลงและความ…
คนญี่ปุ่นสมัยโบราณใช้ ‘ใบทาราโย’แทนกระดาษเพื่อเขียนจดหมายหรือบันทึก
ต้นทาราโยพบได้มากในภูมิภาคชิโกกุและคิวชู ประเทศญี่ปุ่น …