“เด็กๆกล้ายอมรับเรื่องผิดพลาดในอดีต พวกเขาจังกลายเป็นแสงสว่างของอนาคต”

Published : มกราคม 18, 2023 | Blog | Editor :

เพราะเด็กๆ เยอรมันกล้ายอมรับเรื่องผิดพลาดในอดีต
พวกเขาจึงกลายเป็นแสงสว่างของเยอรมันยุคใหม่

“จะมีประเทศไหนสร้างอนุสาวรีย์รำลึกถึงความละอายของตน อนุสาวรีย์รำลึกถึงชาวยิวที่ถูกสังหารในยุโรปตั้งอยู่ติดกับประตูชัยบรันเดนบวร์กและตึกไรซ์สถาก (รัฐสภา) ใจกลางกรุงเบอร์ลิน”

อนุสาวรีย์แห่งนี้จะทำให้ทุกคนนึกถึง ‘Holocaust’ เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในยุโรปราว 6 ล้านคนโดยพรรคนาซีเยอรมัน เหตุการณ์ช่วงสงครามโลกที่ทำให้เยอรมนียุคเก่าเป็นเรื่องราวแห่งความน่าสะพรึงกลัว สงคราม และเผด็จการ

“ที่อนุสาวรีย์มีแผ่นคอนกรีตสี่เหลี่ยม 2,711 แผ่น แต่ละแผ่นคล้ายกับโลงศพและเปิดทำการเมื่อปี ค.ศ. 2005 กลุ่มทัศนศึกษาของโรงเรียนบุกมาที่นี่จากทุกส่วนของประเทศ เด็กๆ ได้รับการตักเตือนให้เงียบตลอดเวลา การมองหน้าพวกเขาตอนออกจากอนุสาวรีย์ช่วยสอนอะไรบางอย่าง”

การระลึกไม่ได้เกิดขึ้นง่ายดายและไม่ได้มาอย่างรวดเร็ว เยอรมันใช้เวลาเกือบสองทศวรรษหลังสงครามกว่าจะเผชิญหน้ากับความจริงได้ Generation ที่ผลัดเปลี่ยนไปพร้อมกับวันเวลา ในที่สุดเยอรมันยุคใหม่ก็มาถึงอย่างแตกต่างจากเดิม มันประกอบขึ้นจากแนวคิดของเด็กๆ ยุคหลัง และกลายเป็นเรื่องราวอันน่าทึ่งแห่งการไถ่โทษ เสถียรภาพ และการเติบโต

จอห์น แคมป์ฟเนอร์ ผู้เขียน “คิดแบบเยอรมัน เขาทำกันยังไง” กล่าวไว้ในหนังสือของเขาว่า ผมรู้สึกอึ้งที่ชาวเยอรมันมากมาย โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว หยิบยกเรื่องนี้มาพูดโดยไม่ได้ทันตั้งตัว ไม่ใช่เพื่อจมอยู่กับอดีต แต่เพื่อตรวจสอบว่าเราได้เรียนรู้บทเรียนจริง”

นอกจากการระลึกอย่างตรงไปตรงมา หลายอย่างในชีวิตประจำวันของพวกเขาก็มีมาตรการและกฎที่แน่นหนา สังคมเยอรมันตั้งอยู่บนสำนึกของหน้าที่ ความพยายามร่วมกัน และความเชื่อที่ว่าระเบียบที่มีกติกาเป็นรากฐานมีประโยชน์ พื้นที่ที่พวกเขากลัวที่สุด คือที่ที่คนมีอำนาจสามารถกดขี่คนอ่อนแอ

เราไม่ควรแม้แต่จะต่อเติมบ้านที่บดบังแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องถึงเพื่อนบ้าน , เราไม่ควรทำเสียงดังหลังจากเวลาที่กำหนดเพราะคนแก่จะนอนไม่หลับ , เราควรล้างรถให้สะอาดเพื่อไม่ให้ ‘ถนน’ เสื่อมเสียชื่อเสียง และรายละเอียดอีกมหาศาลที่ดูจะยิบย่อยน่ารำคาญ แต่สั่นสะเทือนถึงแก่นไม่ต่างจากการประท้วง

นี่คือเยอรนีคนใหม่ ที่ก้าวหน้าหลุดพ้นจากจุดเดิมอย่างว่องไว ขณะระลึกถึงความโหดร้ายและผิดพลาดอย่างไม่บิดพลิ้ว เยอรมันได้กลายเป็นชาติผู้นำ ขึ้นสู่แนวหน้าของยุโรปน่าจับมองเป็นที่สุดว่าหมุดหมายของพวกเขาจะทำให้โลกได้พบกับอะไร

และหากคุณได้อ่าน “คิดแบบเยอรมัน เขาทำกันยังไง: Why the Germans Do it Better” จอห์น แคมป์ฟเนอร์ จะยิ่งคลี่ขยายให้คุณเข้าใจอย่างถี่ถ้วน ทั้งบทสัมภาษณ์ ประสบการณ์ตรง และหลักฐานที่ร้อยเรียง เพื่ออธิบายให้ฟังว่า ทำไมชาติที่เคยบอบช้ำจากยาพิษของตัวเอง ถึงทำได้ดีกว่าคนอื่น

หนังสือจะพาเราไปสำรวจแง่มุมต่างๆ ของสังคมเยอรมัน ตั้งแต่บาดแผลที่สงครามทิ้งไว้ , การก้าวขึ้นมาของแม่แห่งชาติ อย่างนายกฯ อังเกลา แมร์เคล หญิงแก่งที่ครองเก้าอี้มา 4 สมัย และพาประเทศฝ่าฝันวิกฤตมาแล้วนับไม่ถ้วน , การขยายอิทธิทางเศรษฐกิจของจีน , ความสัมพันธ์กับรัสเซีย , ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกันอย่างล้นหลามอีก , การเปิดรับผู้ลี้ภัยเองก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง

เยอรมนีก้าวรุดไปข้างก้าวดังที่ อังเกลา แมร์เคล ประกาศในวันที่เธอตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่ง หลังดำรงมานานถึง 16 ปี เหตุที่เธอประกาศไม่ลงเลือกตั้งในสมัยถัดไปคือ “เยอรมนีจำเป็นต้องเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่”
และมันยังคงดำเนินต่อไปจวบจนวันนี้

แท็ก


Related Content

ทุกวันเป็นวันที่ดี

ทุกวันเป็นวันที่ดี

ฉันปลดเปลื้องสัมภาระที่แบกไว้บนหลัง ทันใดนั้นไหล่ที่เคยแข็งเกร็งกลับผ่อนคลาย ตัวเบาสบายขึ้นทันที ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นกับตัวฉันเอง ไร้ซึ่งสัมภาระติดตัว