Reading Cure ถ้าคุณเหงา เราอยากให้ลองอ่านหนังสือ

Published : มกราคม 26, 2023 | Blog | Editor :

รู้ไหมว่าหนังสือช่วยเชื่อมโยงคนเข้าหากันและทำให้เราเหงาน้อยลงได้

ในบรรดากิจกรรมหลายอย่างที่เราสามารถทำเพื่อเยียวยาความรู้สึกเหงาได้นั้น ดูเหมือนว่าการอ่านหนังสือไม่น่าจะเข้าข่ายสิ่งที่ช่วยให้หายโดดเดี่ยวได้เลย กิจกรรมนี้ต้องการความเงียบและต้องทำคนเดียว แค่คิดก็ชวนให้รู้สึกเงียบเหงากว่าเดิมเสียอีก แต่ทันทีที่เราเปิดหนังสือและทุกครั้งที่พลิกหน้ากระดาษ นั่นคือการเปิดประตูต้อนรับเหล่าตัวละครเข้าสู่โลกของเราในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง

ขณะที่อ่านหนังสือสักเล่มเราไม่ได้อยู่ตามลำพังเสียทีเดียว แต่มีตัวละครในเรื่องเป็นเพื่อน ซึ่งสมองจะรับรู้สิ่งที่อ่านไปเสมือนการเข้าสังคมแบบจำลอง และเมื่ออ่านหนังสือจบเล่ม การได้เล่าสิ่งที่อ่านหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับใครสักคนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และยังจะได้พบแง่มุมใหม่ที่คาดไม่ถึงอีกด้วย ทันทีที่รู้ว่าใครสักคนชอบหนังสือเล่มเดียวกัน นั่นแทบจะเหมือนว่าเรากับเขาได้รู้จักกันแล้ว เพราะนิยายไม่ได้เล่าแค่เรื่องราวของตัวละคร แต่บางครั้งยังทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนตัวตนและความคิดของเราให้เห็น จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนบอกว่าการอ่านหรือหนังสือเปิดโอกาสให้ได้เจอเพื่อนใหม่ หรือทำให้ได้รู้จักตัวเองดียิ่งขึ้นผ่านตัวละคร

พูดถึงข้อดีของการอ่านเสียมากมายขนาดนี้ หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากอ่านแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี เรามีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก

  1. อ่านตามคำแนะนำของคนอื่น : อาจจะเป็นเพื่อนสนิท ลิสต์หนัวสือที่คนดังหรือบุคคลสำคัญอ่าน
  1. อ่านหนังสือที่เล่าเรื่องหนังสือ : books about books จัดเป็นหมวดนิยายยอดนิยมหมวดหนึ่ง เรื่องเล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เชื่อมโยงกันผ่านการอ่านและหนังสือนั้นมีบรรยากาศเฉพาะตัวชวนให้รู้สึกอบอุ่น อ่านแล้วติดใจ นอกจากนี้อ่านจบหนึ่งเล่มยังได้ลิสต์หนังสือให้หาอ่านต่ออีกเพียบ
  1. อ่านให้หลากหลาย : คงจะดีไม่น้อยหากเราได้เจอเล่มที่ใช่ตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน แต่ถ้าเล่มในมือยังไม่ถูกใจ ลองเปลี่ยนเรื่องหรือเปลี่ยนแนวดู อ่านอะไรก็ได้ที่สนใจและอยากอ่าน ยิ่งถ้าเห็นปกเล่มไหนแล้วมีความรู้สึกแว้บขึ้นมาในหัวว่า “อยากอ่านจัง” ล่ะก็ ให้รีบคว้าไว้เลย
  1. อ่านอย่างสม่ำเสมอ : ไม่ถึงกับต้องจับเวลาแบบเป๊ะๆ แต่อย่างน้อยขอให้อ่านทุกวัน การอ่านหนังสือก็คล้ายการออกกำลังกาย ถ้าได้ทำจนเคยชินเมื่อไหร่ เราจะมีสมาธิอ่านได้นานขึ้นและอยากอ่านทุกวันโดยอัตโนมัติ
  1. อย่ารู้สึกผิดถ้าอ่านจบแล้วไม่ชอบ : เพราะความชอบเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่วัดกันไม่ได้ อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดถ้ามีความเห็นเกี่ยวกับหนังสือไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับอายุ ประสบการณ์ และความชอบนั่นแหละ เหมือนอย่างที่ ‘อไลชา’ ในเรื่อง ‘อ่านหนังสือเล่มนั้นด้วยกันไหม’ พูดว่า “ฉันว่าต่างคนก็ต่างได้รับสารจากหนังสือแตกต่างกันไปแหละค่ะ” 

หนังสือที่มีเรื่องเกี่ยวกับหนังสือและการอ่านที่เราอยากแนะนำ

1. อ่านหนังสือเล่มนั้นด้วยกันไหม  นิยายชีวิตแสนอบอุ่นที่จะโอบกอดทุกคนด้วยหน้ากระดาษ รอยน้ำหมึก และหนังสือบางเล่มที่รอให้คุณเปิดอ่าน

2. ฉันจะไม่ลืมร้านหนังสือโมริซากิ เรื่องราวการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอบอวลด้วยกลิ่นกระดาษ ท่ามกลางบรรยากาศย่านหนังสือเก่าที่มีมนตร์ขลัง พร้อมด้วยเรื่องราวของผู้คนที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

3. ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ นักเรียนหนุ่มมัธยมปลาย อาศัยอยู่กับปู่ที่เป็นเจ้าของร้านหนังสือเก่าแห่งหนึ่ง เมื่อปู่เสียชีวิตกะทันหัน เด็กหนุ่มได้รับสืบทอดกิจการ แต่ตัวเขากลับไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ในตอนนั้นเองแมวลายส้มพูดได้ที่แอบอยู่ในร้านก็ปรากฏตัว

4. ภารกิจห้องสมุดของคนเกลียดการอ่าน “การอ่านหนังสือไม่ใช่การหนีจากความจริง แต่เป็นวิธีหนึ่งในการเผชิญหน้ากับความจริงต่างหาก”

5. เมื่อท้องฟ้าแจ่มใส ฉันจะออกไปพบเธอ เรื่องราวของความรักเรียบง่ายที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นในร้านหนังสือเล็กๆ ท่ามกลางหิมะโปรยปราย พร้อมกับผู้คนที่เข้ามาเยียวยาหัวใจเพื่อปลดปล่อยและให้อภัยความรู้สึกติดค้างในอดีต

แท็ก


Related Content