มีเรื่องอะไรอยู่ในใจคุณบ้าง ถ้าถาม ‘แมทธิว ฮัสซีย์’ ผู้เขียน #ศิลปะการโอบรับรักที่ใช่ เราจะได้คำตอบหลายอย่าง ทั้งความรัก/ไม่รัก ความมั่นใจ/ไม่มั่นใจ การเลิกราที่ยังรู้สึกถึงได้ แม้แต่ความกดดันที่ต้องอยู่เป็นโสด

บรรดาคนที่เข้ามาปรึกษาแมทธิวมีคำถามหลากหลายมาก ๆ เกี่ยวกับความรัก หนังสือเล่มใหม่ของ Be(ing) นี้จึงรวบรวมสารพัดปัญหาหัวใจที่คนทั่วไปมักพบเจอ

เราขอยกตัวอย่างเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ และทางออกที่แมทธิวแนะนำเอาไว้

[ เรื่องยากของคนโสด ]
หากคุณรู้สึกว่าการเป็นโสดช่างยากเย็น คุณไม่ได้คิดมากไปเอง เพราะคนส่วนใหญ่ต้องเผชิญแรงกดดันทางสังคมให้พยายามมองหาความรัก แรงกดดันที่เกิดขึ้นเมื่อคุณโสดจึงเป็นเรื่องน่าลำบากใจ

แมทธิวมองว่า การพยายามตามหาความสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เรามึนงงหลงทาง เพราะเรื่องที่เราควรเล่าให้ตัวเองฟังคือ เรามีความสุขได้ทุกสถานะ ไม่ว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์ จะมีรักหรือไม่มีรัก

[ ความมั่นใจและไม่มั่นใจในตัวเอง ]
ประสบการณ์เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ว่าเราจะผ่านประสบการณ์รักมามากหรือน้อยก็ไม่ใช่เรื่องผิด และเพราะประสบการณ์เท่าที่มี หลายคนจึงไม่เชื่อว่าตัวเองจะได้เจอสิ่งที่ดีกว่า ทำให้เผลอยอมรับความรักในปริมาณต่ำ

แมทธิวให้ความเห็นไว้ว่า ความรักแบบนี้จะทำให้เราเจ็บซ้ำ ๆ จนเข้าขั้นเรื้อรัง และขัดขวางไม่ให้เราเจอความรักที่ดี (ยอมอกหักยังดีกว่า) การดึงตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์ที่แย่และตามหารักที่ดีกว่า ต้องอาศัยความมั่นใจในตัวเองว่า เรามีสิทธิ์เลือกความสัมพันธ์ที่ดีต่อกายและใจ

[ ความคาดหวังและพูดคุยเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ ]
เราควรคาดหวังและกล้าพูดเรื่องที่เป็นมาตรฐานของเรา เช่น การมีเซ็กซ์อย่างปลอดภัย หรือเรื่องที่เราไม่อยากมีลูก ถ้าเราทำเป็นมองไม่เห็นมาตรฐานของตัวเองก็เท่ากับเรายอมรับโดยปริยาย

สิ่งที่ยากแต่ต้องทำคือการคุยกับตัวเองว่า เราไม่ควรเสียเวลาจนไม่มีความสุขในวันนี้ อย่าปล่อยให้ใครมาเห็นแก่ตัวกับเรา เราสามารถคาดหวังสิ่งที่ดีและต้องกล้าหาญเพื่อปกป้องตัวเอง

[ เอาชีวิตรอดจากการเลิกรา ]
การเลิกรามีอยู่สองแบบ

1. การเลิกราที่เกิดขึ้นกับเรา
2. การเลิกราที่เราทำให้เกิด
   ทั้งสองแบบก่อให้เกิดความว่างเปล่าเหมือนกัน เราอาจทุกข์ใจในตอนแรก แต่เมื่อเราตระหนักถึงอิสระจากการยึดติด และจากความวิตกกังวลทั้งปวง เราจะเห็นความรู้สึกสงบที่จับต้องได้

เราอาจต้องทำใจยอมกำจัดสิ่งที่ทำให้นึกถึงเขา และแทนที่ด้วยประสบการณ์ใหม่ (ไม่ใช่หาคนมาแก้ขัดนะ) เช่น ถ้าไม่สามารถกลับไปทานอาหารร้านโปรดของพวกเราได้หลังเลิกกัน เราอาจลองพาตัวเองไปร้านนั้นกับเพื่อน กับครอบครัว แทนที่อดีตด้วยความทรงจำที่ดีเพื่อเอาร้านโปรดของเรากลับคืนมา เป็นต้น

💘 ศิลปะการโอบรับรักที่ใช่
Love Life: How to Raise Your Standards, Find Your Person, and Live Happily (No Matter What)

📍ช่องทางสั่งซื้อ

#Valentinesday #วาเลนไทน์ 

#ศิลปะการโอบรับรักที่ใช่ #LoveLife