เมนูแห่งความทรงจำจากหนังสือ

Published : พฤศจิกายน 13, 2023 | Blog | Editor :

อาหารในความทรงจำของคุณคือเมนูอะไร?

และเมนูไหนในนิยายที่คุณประทับใจมากที่สุด?

บางครั้งการอ่านก็ทำให้เราน้ำลายสอและท้องร้อง เมื่ออ่านเจอฉากตัวละครทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย หรือเมื่อผู้เขียนบรรยายจานอาหารตรงหน้าอย่างละเอียดจนเราเเทบจะได้กลิ่นตามไปด้วย

วันนี้เราขอพานักอ่านไปรู้จักเมนูจากหนังสือที่ชวนอบอุ่นหัวใจและทำให้ท้องหิว ได้แก่

1. แม่มดกิกิผจญภัย 5 ตอน กิกิกับเวทมนตร์ที่หายไป

ตามธรรมเนียมโบราณ เมื่ออายุครบ 13 ปี ผู้สืบเชื้อสายแม่มดจะต้องออกเดินทางไปอาศัยอยู่ต่างเมืองเพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง บรรดาแม่มดทั้งหลายต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่แลกเปลี่ยนกับอาหารและสิ่งของ เช่น แม่ของกิกิปรุงยาแก้จาม และกิกิเปิดไปรษณีย์ด่วนแม่มดเพื่อรับส่งของ เป็นต้น

ในเล่ม 5 ตอน ‘กิกิกับเวทมนตร์ที่หายไป’ เราจะได้รู้จัก ‘หนูไร’ แม่มดน้อยที่เพิ่งออกเดินทางครั้งแรก เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถอะไรเลย สิ่งเดียวที่มั่นใจคือการปรุง #ซุปอุ่นใจ ที่จำสูตรมาจากคุณแม่อีกที ส่วนผสมหลักของซุปชามนี้คือเมล็ดของผักที่มีกลิ่นหอม และเวลาปรุงต้องร้องเพลงไปด้วย

บอกตามตรงว่าซุปอุ่นใจรสชาติไม่ได้เรื่องเอาซะเลย! แต่หนูไรทำให้กิกินึกถึงตัวเองตอนเริ่มรับส่งของช่วงแรกๆ ที่มักทำอะไรผิดพลาดอยู่เสมอ สิ่งที่ทำให้เธอมีกำลังใจและไม่ถอดใจไปก่อนคือลูกค้าคนแรกที่ถือสาความเป็นมือใหม่ กิกิจึงอยากเป็นลูกค้าคนแรกที่ทำให้หนูไรมีกำลังใจในการเดินทางต่อไป

2. มุงิโมโตะ ซัมโปะ อย่างน้อยวันนี้ฉันก็มีสิ่งที่ชอบ

“ขอหนึ่งชิ้นค่า”
“กินเลยค่ะ!”
“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ”
“กินแล้วนะคะ”
“ร้อน!”
“อืม ร้อนๆ หวานๆ อร่อยเหาะ”

แค่ได้กินของอร่อยๆ ก็มีความสุข แค่ได้เห็นคนกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยก็มีความสุขตามไปด้วย

นางสาวซัมโปะจะทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นตลอดทั้งเล่ม ขนาดแค่การกินไทยากิยังมีลีลาน่าจดจำขนาดนี้

3. วันนี้อาจมีรสเผ็ดเล็กน้อย

“ถ้ากินอะไรไม่ได้เลยก็ไม่มีความหวังการมีชีวิตก็ไม่ต่างจากความตาย … หากไม่มีความหวังแล้วชีวิตก็ไม่มีความหมายใด ๆ”

นี่คือบันทึกการทำอาหารที่เต็มไปด้วยความรู้สึก หลังจากที่ภรรยาอาการทรุดหนักเพราะโรคมะเร็งจนทานอะไรแทบไม่ลง คังชังแร จึงลงมือทำอาหารให้เธอทานตามที่ต้องการ เหตุผลหนึ่งคือร่างกายของเธออ่อนแรงและมักจะเจ็บปวดจนทำอะไรเองไม่ไหว และเหตุผลหลักคือเธออยากให้คนที่ต้มรามยอนเป็นเพียงอย่างเดียวแบบเขารู้จักการทำอาหารบ้าง เพื่อวันที่เธอไม่อยู่ เขาจะได้ดูแลตัวเอง

บางครั้งภรรยาทานอะไรไม่ลงเลย และเมื่อเธอเอ่ยปากขึ้นมาว่าอยากทานอะไร เขาจะรีบทำให้ทันที

“อยากกินหมูสามชั้นสักสองสามชิ้น”

เมื่อได้ยินดังนั้น ชังแรก็ลงมือย่างหมูสามชั้นอนามัยชิ้นบาง ๆ จนกรอบ เป็นชื้นเนื้อเปล่า ๆ ที่ไม่ได้ใส่เครื่องปรุงอะไรเลย แต่ภรรยาของเขาก็ละเลียดชิมอย่างเอร็ดอร่อย

4.อ่านหนังสือเล่มนั้นด้วยกันไหม


นิยายเรื่องนี้มีเมนูอาหารอินเดียที่น่ากินเยอะพอๆ กับรายการหนังสือที่น่าอ่าน

หลังจากที่ นัยนา จากไป มูคีช ใช้ชีวิตเพียงลำพังอย่างเงียบเหงา แต่แล้วเขาก็มีโอกาสได้เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ อีกครั้งในวัย 80 ปี ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือและการทำอาหาร

‘โดซ่า’ เป็นเมนูจานโปรดที่อยู่ในความทรงจำของมูคีชมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ของเขาขึ้นชื่อว่าทำโดซ่าได้อร่อยที่สุดในหมู่บ้าน และยังเป็นเมนูที่ภรรยาของเขาเคยทำให้กินเป็นประจำทุกคืนวันศุกร์ อาหารจานนี้ประกอบด้วยแผ่นแป้งบางๆ ขนาดใหญ่ คล้ายโรตีหรือแพนเค้ก ด้านในมีไส้ทำจากเครื่องเทศและจิ้มกับซอสหรือแกงเวลาทาน

ซารา นิชา อดัมส์ เขียนนิยายโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตของคุณปู่ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ ที่เมืองนี้มีชาวอินเดียอาศัยอยู่ไม่น้อย ตลอดทั้งเรื่อง เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนอินเดียที่มีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม มีรายละเอียดทางวัฒนธรรมตั้งแต่เมนูอาหาร ภาษา ไปจนถึงการนับถือศาสนา

5.สิ่งที่หลงเหลือไว้ในจักรวาล


ทีโอ ต้องเลี้ยงดู โรบิน ลูกชายวัยเก้าขวบตามลำพังหลังจากที่ เอลี ภรรยาของเขาด่วนจากไป เมนูในความทรงจำเพียงอย่างเดียวที่โรบินจำได้คือ คาสเซอโรลมะเขือม่วง อาหารจานเด็ดที่แม่เคยทำให้กิน

คาสเซอโรล เป็นเมนูนี้มีอายุยาวนานกว่าพันปี อันที่จริงคำว่า casserole เป็นชื่อเรียกภาชนะทรงก้นลึกสำหรับเข้าเตาอบ และต่อมาก็ได้นำชื่อนี้มาเรียกอาหารที่ใช้ภาชนะประเภทนี้เพื่อการปรุงสุกด้วย

แม้โรบินจะได้ใช้เวลากับแม่เพียง 9 ปี แต่เขาทั้งสองคกลับมีอะไรหลายอย่างคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นความสนใจเรื่องธรรมชาติ ความรักสัตว์ รวมไปถึงจิตวิญญาณของนักต่อสู้ที่ต้องการเรียกร้องสิทธิให้สัตว์ป่าและธรรมชาติที่ถูกมนุษย์เอาเปรียบมากขึ้นทุกวัน

แท็ก


Related Content