ไม่ใช่แค่โรคภัยไข้เจ็บที่พรากชีวิตมนุษย์ไป แต่ความสิ้นหวังเองก็กำลังไต่ระดับมาอย่างน่ากลัว

เราจะสามารถยึดมั่นความหวังไว้ในชีวิตได้อย่างไร ชีวิตที่มียังควรค่าแก่การดำรงอยู่หรือไม่? นี่เป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับใครหลายคน ต่างวาระต่างเวลา แต่ดูเหมือนว่าคำถามนี้กำลังดังขึ้นเรื่อยๆ ในโมงยามที่สังคมเกิดความไม่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

“อย่าสูญสิ้นความหวัง เพราะชีวิตยังมีความหมาย” หนังสือเล่มแรกจาก Being ในปีนี้ จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของคำถามเหล่านั้น นี่เป็นผลงานจากวิกเตอร์ อี. ฟรังเคิล ผู้เขียน Man’s Search for Meaning

ถ้าหากจะมีใครสักคนที่มีพลังใจมากที่สุดคนหนึ่ง คนๆ นั้นก็คือเขาคนนี้ ฟรังเคิลคือชายที่ถูกนำตัวไปยังค่ายกักกันพร้อมกับมนุษย์อีกมากกว่าหนึ่งล้านคน พวกเขาคือคนที่ถูกมองว่าไม่คู่ควรกับการมีชีวิตอยู่ต่อไป

การอยู่รอดในค่ายกักกันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสถานที่แบบนั้นพรากความเป็นมนุษย์ไปจากทุกคนทีละน้อย บางคนรอดมาได้โดยบังเอิญ บางคนรอดมาได้โดยผู้คนรอบข้าง บางคนรอดมาได้จากความหวัง แต่ส่วนใหญ่… ไม่สามารถรอดมาได้

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง พวกเขาหลายคนยังติดอยู่ในชั่วโมงแห่งความโหดร้าย แต่ไม่ใช่กับฟรังเคิล เพียงไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากรอดชีวิต เขาก็หยิบ “ความหมายของชีวิต” มาพูดถึง และมันก็กลายเป็นสิ่งที่ช่วยกอบกู้พลังใจ เพื่อให้ใครหลายคนมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป

ฟรังเคิลเริ่มต้นด้วยการพูดถึงช่วงเวลาของสงคราม แก่นของการดำรงชีวิตสูญหาย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ถูกทำลาย มันกลายเป็นชะตาชีวิตที่พวกเขาไม่ได้เลือก แต่ก็ไม่อาจหลบเลี่ยง ดังนั้น หากเปลี่ยนชะตากรรมไม่ได้ อย่างน้อยเราก็ต้องยอมรับ ปรับตัว และเติบโตให้ได้แม้อยู่ท่ามกลางปัญหา

แม้จะมีความโหดร้ายและความตายอยู่ตรงหน้า แต่ชีวิตก็ยังมีที่ว่างอยู่เหลืออยู่บ้าง นั่นคือ จิตใจของพวกเขาเอง ซึ่งถ้าหากเราเติมความหมายลงไปได้ด้วยการกระทำ ความรัก หรือกระทั่งความทุกข์ ความหมายและคุณค่าของเราก็จะปรากฎ

ชีวิตจึงหมายถึงการถูกถาม และเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเราต้อง “ตอบรับกับชีวิต” ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

คุณพร้อมจะตอบรับกับชีวิตแล้วหรือยัง?