Editors’ Picks อย่าบอกให้สู้อีกได้ไหม เพราะฉันอาจไม่มีวันหายดี
Published : เมษายน 28, 2023 | Blog | Editor :

ตอนที่รู้ว่าจะได้รับผิดชอบหนังสือเล่มที่ชื่อว่า ‘อย่าบอกให้สู้อีกได้ไหมเพราะฉันอาจไม่มีวันหายดี’ เราแอบรู้สึกหวั่น ๆ ว่าจะไหวไหมในการทำงานกับเรื่องที่ใกล้ตัวขนาดนี้ ถ้อยคำในหนังสือจะทำให้ใจเราเจ็บเสียเองหรือไม่ หรือว่าจะได้แง่มุมใหม่ๆ ที่ไม่เคยมองมาก่อนจากการทำหนังสือเล่มนี้
คำโปรยของหนังสือเล่มนี้บอกว่า จางหมิ่นจู้ผู้เขียนเป็นหญิงสาวที่เผชิญกับโรคซึมเศร้าตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ความเจ็บปวดทรมานของเธอทำให้อยากทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้นในเชิงวิชาการและวิทยาศาสตร์ ทำให้เธอตัดสินใจเลือกเรียนสาขาจิตวิทยาเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย สิ่งที่ได้เรียนรู้จากห้องเรียนทำให้เธอได้สำรวจมันจากแง่มุมของ ‘คนนอก’ ได้เข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง (ที่เคยไม่เข้าใจกันเพราะโรคนี้เป็นอุปสรรค) และถอดบทเรียนการใช้ชีวิตในแบบของคนเป็นโรคซึมเศร้า
โรคที่อาจไม่มีวันหายดี แต่ก็สามารถมีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ และกับผู้คนรอบตัวได้ไม่ต่างจากคนอื่น
หนังสือเล่มนี้ให้ทั้งความรู้ในเชิงวิชาการ ให้กำลังใจ ให้ความเข้าอกเข้าใจ เหมือนมีเพื่อนที่เผชิญกับปัญหาคล้าย ๆ กันมานั่งข้าง ๆ กอดคอและปรับทุกข์กันตามประสา หลายคนอาจรู้สึกเกี่ยวโยงกับประสบการณ์ชีวิตของผู้เขียน ผู้ซึ่งเป็นเด็กสาวชนชั้นกลางธรรมดา การเรียนพอใช้ รู้สึกแปลกที่แปลกทางกับห้องคิงที่เรียนอยู่ เข้ากับเพื่อนไม่ได้ และพ่อแม่ไม่ได้เป็นเซฟโซนให้อย่างที่ควร
จางหมิ่นจู้เป็นคนธรรมดาอย่างที่อาจเดินสวนกันตามป้ายรถเมล์ อาจเป็นเพื่อนในห้องเรียนเดียวกับเรา หรืออาจเป็นคนที่อยู่บ้านเดียวกับเราเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่เราไม่เคยรู้ว่าในใจของพวกเขามีหินก้อนใหญ่ที่หนักอึ้งและร้อนเป็นไฟถ่วงอยู่
เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับทั้งผู้ป่วยโรคซึมเศร้า(ที่อาการไม่รุนแรงจนเกินไป ใจแข็งแรงพอที่จะอ่านเรื่องราวที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรืออาการแย่ลงได้) และคนที่มีคนใกล้ชิดเป็นผู้ป่วย หรืออยากเข้าใจผู้ป่วยในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ร่วมกันในสังคม
ในฐานะบรรณาธิการผู้จัดทำ ‘อย่าบอกให้สู้อีกได้ไหม เพราะฉันอาจไม่มีวันหายดี’ และคนที่มีประสบการณ์ร่วมกับผู้เขียน อยากบอกทุกคนว่ากำลังใจและความเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยต้องการอย่างยิ่งจากคนใกล้ตัว และหนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจระหว่างทั้งสองฝ่าย และที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง โปรดอย่าบอกให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสู้ไปมากกว่านี้อีกเลยเพราะทุกวันของพวกเขาล้วนคือการต่อสู้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะสู้กับความรู้สึกภายในหัวใจและร่างกายของตัวเอง หรือสู้กับสังคมภายนอกที่มองมาอย่างไม่เข้าใจ
สุดท้ายนี้ ต่อให้โรคนี้อาจไม่มีวันหายดี แต่ก็ขอให้เราใส่ใจและเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นนะคะ
แท็ก
Related Content

Editors’ Picks คุ้มกันหัวใจให้คุณจิตรกร
Editors’ Picks บรรณาธิการชวนอ่าน ปี 2022 นี้ เราขอนำเสน…

Editors’ Picks ขนมปังของพรุ่งนี้ แกงกะหรี่เมื่อวันวาน
Editors’ Picks แนะนำหนังสือที่อยากให้นักอ่านเป็นเจ้าของ…

Editors’ Pick สืบพยาบาทปีศาจโบกีวัง
“…พ่อแม่และญาติเล่าเรื่องผีโบกีวังให้ฟังด้วยว่า ต…