“คังชังแร (강창래)” ชายผู้บันทึกการทำอาหารที่แฝงความหวังในการมีชีวิต

Published : พฤศจิกายน 17, 2023 | Blog | Editor :

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศร้าแค่ไหน หากเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือแล้ว มันจะช่วยปลอบประโลมจิตใจได้”

‘คังชังแร’ เป็นอดีตบรรณาธิการผู้มีประสบการณ์ในวงการสิ่งพิมพ์เกาหลีใต้มานานกว่า 20 ปี เป็นอาจารย์ผู้บรรยายด้านมนุษยศาสตร์และการเขียน เป็นนักเขียน และเป็นสามีของภรรยาที่กำลังป่วยหนักจนมีข้อจำกัดในการทานอาหารหลายอย่าง

เมื่อภรรยาขอร้องให้เขาช่วยทำอาหารให้ทาน จากชายที่ทำได้เพียงแค่ต้มรามย็อนก็ต้องหันมาทำทุกอย่างในครัว ต้องปรับตัวให้คุ้นชินกับเรื่องที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งนอกจากการทำอาหารแล้วก็ยังมีการดูแลคนป่วยแบบ 24 ชม. อีกด้วย

ชังแรเชื่อว่า “อาหารที่ดีคืออาหารที่เตรียมวัตถุดิบด้วยความใส่ใจ” เมื่อต้องรับหน้าที่พ่อครัวเต็มตัว เขาจึงอ่านหนังสือเพิ่มเติม และหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำอาหารราวกับกำลังจะเขียนรายงานสักเล่ม (นี่คงเป็นนิสัยของนักวิชาการที่ติดตัวมาด้วย) หากจะทำเมนูไหน เขาจะลองดูวิธีการปรุงหลายๆ สูตรเพื่อปรับให้เหมาะสมกับผู้ทานที่สุด นั่นคือภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย

ระหว่างที่คอยดูแลภรรยา ชังแรอยากระบายความยากลำบากในแต่วันให้ใครสักคนฟัง อยากจดสิ่งที่ได้เรียนรู้จากในครัว อยากบันทึกวันที่มีทั้งความยินดีและความเศร้าสลับกันเป็นว่าเล่นเอาไว้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่านิสัยการเขียนที่ติดตัวมาช่วยบรรเทาความทุกข์ใจได้มากกว่าสิ่งไหน

บันทึกเล่มนี้เริ่มต้นจากการโพสต์ลงเฟซบุ๊กทีละเล็กทีละน้อยคล้ายกับการจดโน้ต แล้วรายละเอียดก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น เขาเริ่มโพสต์ครั้งแรกช่วงเดือนตุลาคม ปี 2016 รวมแล้วมีสูตรอาหารมากกว่า 60 เมนู และระหว่างการทำหนังสือเล่มนี้ ชังแรเชิญตัวแทนจากสำนักพิมพ์และศิลปินที่วาดภาพประกอบในเล่มมาที่บ้านเพื่อปรุงอาหารให้ลองทานด้วย

เมื่อบอกว่าหนังสือเล่มนี้คือบันทึกของชายคนหนึ่งที่ดูแลภรรยาจนวาระสุดท้าย หลายคนคงเข้าใจว่านี่เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยน้ำตา และแม้นักอ่านหลายคนจะบอกว่าหนังสือของเขาช่างเศร้าเหลือเกิน ทั้งเศร้าและชวนให้หิวด้วย แต่ชังแรยืนยันว่าเขาตั้งใจเขียนบันทึกเล่มนี้เพื่อเปลี่ยนความเศร้าและความทุกข์เหล่านั้นมาเป็นความยินดี

ภรรยาของชังแรเสียชีวิตใน 3 ปีให้หลัง หลังจากที่เขาเริ่มโพสต์บันทึก แม้ตอนนี้ดูเผินๆ แล้วชังแรยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังคงไปบรรยาย เขียนหนังสือ และให้สัมภาษณ์ทางวิชาการ แต่เขายืนยันว่า “ชีวิตของผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง” และ 3 ปีนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต

“เราไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อรอวันตาย แต่ละวันคือการใช้ชีวิตเพื่อมีชีวิต คงจะดีหากสามารถทำให้สิ่งที่กำลังจะเลือนหายไปคงอยู่ตลอดกาล”

🥘 วันนี้อาจมีรสเผ็ดเล็กน้อย
오늘은 좀 매울지도 몰라

แท็ก


Related Content