“อินสตาแกรม” ไม่ใช่แค่แพชชั่น แต่ต้องกล้าก้าวจากคอมฟอร์ทโซน

Published : มิถุนายน 8, 2023 | Blog | Editor :

ในปี 2005 มาร์ก ซักเกอร์เบิร์กกำลังเป็นคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ แต่ซิสทร็อมยังเป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่ชอบถ่ายภาพ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถูกมาร์กชวนไปทำงานด้วย มันเป็นโอกาสทองที่น้อยคนจะปฏิเสธ แต่ซิสทร็อมคือหนึ่งในนั้น

จากนั้นเขาก็วางแผนไปเรียนต่อที่ฟอเรนซ์ ที่นี่เองที่ซิสทร็อมได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่าง เวลาเขาหลงใหลอะไร เขาจะทำมันอย่างจริงจัง ไม่เว้นแม้แต่การถ่ายภาพ ตอนอยู่ฟลอเรนซ์มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อาจารย์ไม่ให้เขาใช้กล้องของตัวเองในวิชาถ่ายภาพ แต่ยื่นกล้องโฮลกา (Holga) ซึ่งถ่ายได้แต่ภาพขาวดำสี่เหลี่ยมจัตุรัสเบลอๆ มาให้ “คุณต้องเรียนรู้ที่จะหลงใหลในความไม่สมบูรณ์แบบด้วย” อาจารย์บอก

แล้วมันก็กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของอินสตาแกรม

หลังจบจากสแตนฟอร์ด ซิสทร็อมเลือกเข้าทำงานที่ Google แล้วพออายุ 25 ปี เขาก็ย้ายงานไปเป็นผู้จัดการในสตาร์ตอัปเล็กๆ และพยายามขวนขวายบางอย่างไปด้วย ในปี 2009 เขาสร้างเบอร์บัน (Burbn) ขึ้นมา แอปให้ผู้ใช้งานบอกได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน เพื่อให้เพื่อนๆ ตามมาเจอ นี่คือไอเดียแรกๆ ของการลงมือสร้างแอปของเขา

ซิสทร็อมเจอกับครีเกอร์ผ่านการแนะนำจากคนรู้จัก พวกเขาเข้ากันได้ดี และตกลงที่จะทำงานร่วมกัน ซิสทร็อมพยายามหาเงินทุนเพิ่มสำหรับโปรเจกต์

“ผมว่าเดี๋ยวมันต้องมีจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนเลิกพกกล้องถ่ายรูปแบบออโต้ แล้วหันมาพกโทรศัพท์พวกนี้นี่แหละ”

พวกเขาจึงเน้นไปที่รูปถ่ายเป็นหลัก ปรับปรุง และพัฒนา ทั้งการแสดงผล การแสดงผู้ติดตาม รวมถึงฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกใช้งานได้ง่ายๆ ชื่อที่ทั้งสองตั้งคือ “อินสตาแกรม” (Instagram) โดยนำคำว่า “instant” (ทันที) และ “telegram” (โทรเลข) มารวมเข้าด้วยกัน

ผู้ใช้กลุ่มแรกคือช่างภาพ นักออกแบบฝีมือดี เพื่อทำให้มู้ดของแอปดูมีศิลปะ งดงาม มีความคิดสร้างสรรค์ อินสตาแกรมเปิดตัวกับสาธารณะวันที่ 6 ตุลาคม 2010 แอปเป็นประแสโด่งดังขึ้นมาทันที ภายในวันแรกพวกเขามีผู้ใช้งาน 25,000 คน

“น้อยครั้งมากที่ความสำเร็จจากการเปิดตัวจะหมายความว่าแอปนั้นจะอยู่ในตลาดได้นาน” แต่อินสตาแกรมทำได้ และมันก็ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่มีแอปไหนเคยทำ และไม่แน่ว่าอาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้

แท็ก


Related Content