Lost soul finds comfort เมื่อหัวใจที่หลงทางได้กลับบ้าน
Published : กุมภาพันธ์ 10, 2023 | Blog | Editor :
Lost soul finds comfort เมื่อหัวใจที่หลงทางได้กลับบ้าน
คุณเคยรู้สึกหลงทางทั้งที่ไม่ได้ออกไปไหนไกลบ้างไหม เหมือนกับว่าตัวตนหล่นหายไปในวันเวลาที่เดินไป จากวันเป็นเดือนเป็นปี ถ้าเทียบระยะทางกับระยะเวลาแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าหลงมาไกลแค่ไหน เราอาจจะอยู่ห่างจากจุดเดิมไปหลายร้อยกิโลเมตร ในกรณีนี้คงไม่สามารถใช้กูเกิ้ลแมพช่วยนำทาง เพราะเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องการกลับไปที่ไหน ถ้าจุดหมายปลายทางคือตัวตนที่คุ้นเคยในวันเก่า คือความสุขที่เคยมี แล้วเราจะปักหมุดในแอพว่าอย่างไรดี
ใช่ว่าหัวใจที่หลงทางจะไม่มีวันกลับบ้านได้อีกครั้ง
และใช่ว่าหัวใจดวงนั้นจะอยากกลับไปที่เดิม
บางครั้งสิ่งที่ช่วยนำทางกลับไปอาจจะมาในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง เช่น คนแปลกที่หน้าเพิ่งรู้จักแต่กลับสนิทสนมราวอยู่ด้วยกันมานาน หนังสือสักเล่มที่หยิบมาอ่านได้ถูกช่วงถูกเวลาและช่วยให้เรามองเห็นทางเดินข้างหน้าได้ชัดเจนขึ้น หรืออาจจะเป็นบทเพลงที่ทำให้ระลึกถึงความหลัง แล้วความทรงจำที่เคยหล่นหายก็หวนกลับมา บางทีอาจจะต้องใช้เวลาผ่านการเรียนรู้ไปทีละนิดจนวันหนึ่งก็เกิดตระหนักได้ว่าจุดหมายปลายทางที่ในใจที่เราตามหาคือที่ไหน
นี่คือเรื่องราวของตัวละครทั้งเจ็ดผู้เคยหลงหายและสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาค้นเส้นทางอีกครั้ง
1. ฉันจะไม่ลืมร้านหนังสือโมริซากิ
“ฉันเองถ้าไม่ได้ไปที่ร้านนั้น อนาคตต่อจากนี้คงใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอยไปตลอด ที่นั่นมีแต่หนังสือก็จริง แต่ก็ทำให้ได้เจอคนหลากหลาย ได้เรียนรู้มากมาย ในที่สุดก็รู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับตัวเอง”
ทาคาโกะ เจอเรื่องผิดหวังแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อแฟนหนุ่มบอกว่ากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น เธอตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อพักใจ ในขณะที่คิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตดี น้าชายที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานก็โทรมาขอให้ช่วยไปดูแลร้านหนังสือโมริซากิของตน ในตอนแรกทาคาโกะรู้สึกอึดอัดเพราะตัวเองไม่ได้ชอบอ่านหนังสือแต่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหนังสือนับพันเล่มและผู้คนที่หายใจเข้าออกเป็นการอ่าน แต่ด้วยบรรยากาศ บทสนทนา และสภาพแวดล้อม ทำให้เธอค่อยๆ เปิดใจ แล้วทาคาโกะก็ได้พบจุดเปลี่ยนในชีวิต ไม่ใช่แค่หนังสือที่ทำให้เธอเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่ยังมีมิตรภาพที่ได้รับจากผู้คนในละแวกนั้น ชีวิตในร้านหนังสือโมริซากิเป็นเหมือนช่วงเวลาที่เธอได้หยุดพักในวันที่เปราะบาง เพื่อก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและเริ่มต้นชีวิตใหม่
2. เมื่อท้องฟ้าแจ่มใส ฉันจะออกไปพบเธอ
“ท้องฟ้าไม่ได้แจ่มใสทุกวัน บางวันก็หม่นหมอง บางวันก็อ่อนโยนจนไม่อยากละสายตาไปไหน กับชีวิตก็เหมือนกัน ถึงเราอยากจะให้ทุกวันมีแต่ความแจ่มใส แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ดั่งใจหรอก”
‘มกแฮว็อน’ ครูสอนศิลปะสาวที่เพิ่งลาออกจากงาน และหนีจากชีวิตที่ผิดหวังในกรุงโซล กลับมาพักรักษาใจที่หมู่บ้านในชนบทที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น เธอได้พบกับ “อิมอึนซ็อบ” เจ้าของร้านหนังสืออิสระที่ชื่อกู๊ดไนต์ และสมัครทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวที่นั่น เรื่องราวในร้านหนังสือเล็กๆ ท่ามกลางหิมะโปรยปราย พร้อมกับผู้คนที่เข้ามาเยียวยาหัวใจเพื่อปลดปล่อยและให้อภัยความรู้สึกติดค้างในอดีต
1. มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน
คุณเคยรู้สึกผิดหวังกับชีวิตใช่ไหม? ในช่วงเวลาเหล่านั้นบางครั้งเราก็รู้สึกว่าอยากหายไปเสียดื้อๆ แค่หายไปและไม่ต้องข้องเกี่ยวกับอะไรอีก แต่ถ้าได้มีโอกาสกลับไปแก้ไข เราจะตัดสินใจต่างไปจากนี้ไหม แล้วถ้าเลือกอีกทางมันจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือเปล่า?
นอรา ซีด พบความผิดหวังและเห็นความฝันพังทลายมานับครั้งไม่ถ้วน เธอใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดมุ่งหมาย แล้วเธอก็เป็นโรคซึมเศร้า เมื่อทุกอย่างเกินกว่าจะรับมือไหว นอราจึงหันหลังให้กับชีวิตด้วยการกินยาเกินขนาด แต่ทุกอย่างที่ควรจะจบลงกลับได้เริ่มต้นใหม่อีกหนเมื่อเธอตื่นมาใน “ห้องสมุดเที่ยงคืน” สถานที่ระหว่างความเป็นกับความตาย ซึ่งนอราได้รับโอกาสให้กลับไปลองใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งก่อนที่จะต้องตัดสินใจครั้งสุดท้าย
เรื่องราวของการโอบกอดชีวิตที่เต็มไปด้วยบาดแผล ทั้งภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความคิดฆ่าตัวตาย จะดีสักแค่ไหนหากเราสามารถสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับหัวใจที่อ่อนล้าได้ นี่เป็นการค้นหาชีวิตที่สมบูรณ์แบบ และระหว่างทางนั้นเราจะได้รู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น รวมทั้งรู้ว่าทำไมชีวิตทุกชีวิตจึงคุ้มค่าที่จะอยู่
2. อ่านหนังสือเล่มนั้นด้วยกันไหม
เมื่อเหล่าผู้คนที่มีบาดแผลในใจมารวมตัวกันได้เพราะลิสต์หนังสือปริศนาในห้องสมุด จากคนแปลกหน้ากลับกลายมาเป็นเพื่อนที่ช่วยประคับประคองและดูแลกัน
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่แตกต่างอย่างมาก ทั้งวัย เชื้อชาติ ภูมิหลังชีวิต ซึ่งได้มาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันจากรายชื่อหนังสือแนะนำแผ่นหนึ่งที่สอดอยู่ในหนังสือห้องสมุด มูคีชเป็นคุณตาชาวอินเดียวัย 80 ที่โศกเศร้าและโดดเดี่ยวหลังภรรยาสุดที่รักจากไป ส่วนอไลชาเป็นเด็กสาววัย 17 ผู้หวั่นไหวแปลกแยกกับชีวิตที่ดูจะไม่เป็นใจให้เธอเสียเลย
สิ่งเดียวที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือต่างเป็นคนที่ไม่ได้รักการอ่านเป็นพิเศษมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อได้ลองเปิดใจดูสักครั้ง ก็พบว่าหนังสือได้มอบสิ่งที่มีความหมายมากมายแก่พวกเขา
เพราะหนังสือเล่มหนึ่ง ๆ ไม่ได้บรรจุเพียงเรื่องราวที่ผู้เขียนบรรจงสร้างขึ้น แต่มันกลายเป็นโลกที่ผู้เขียนและผู้อ่านได้แบ่งปันกัน ผสานกับความทรงจำ การตีความในแบบเฉพาะตัวที่จะไม่มีใครเหมือน หนังสือแต่ละเล่มจึงมีความหมายกับแต่ละคนในรูปแบบที่ต่างกันออกไป
1. หัวใจที่สูญหายและต้นไม้แห่งการเริ่มต้น
บนโลกที่วุ่นวายและไม่แน่นอนนี้ เราไม่รู้เลยว่ามีใครกำลังหลงทางอยู่บ้าง หัวใจดวงไหนกำลังขาดแสงไฟนำทาง และจิตวิญญาณของเราล่องลอยไปทางไหน
เรื่องราวของนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิชาคติชนวิทยา ที่ติดสอยห้อยตามอาจารย์ที่ปรึกษา เดินทางไปทั่วประเทศด้วยหัวใจมุ่งมั่นเพื่อศึกษารากเหง้าที่หล่อหลอมความเป็นญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้ แต่นับวันสิ่งเหล่านี้ก็ยิ่งเสื่อมสูญไปเรื่อยๆ คนญี่ปุ่นเริ่มห่างไกลจากเทพเจ้าซึ่งเคยเคารพนับถือไปทุกที แล้วคนเราจะมุ่งหน้าไปทางไหน
2. คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง
คนที่ค้นพบเป้าหมายของตัวเองตั้งแต่ยังอายุไม่มากเกินไปนั้นน่าอิจฉา คุณเคยมีความคิดอย่างนั้นไหม? การได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือต้องการอะไร เป็นสิ่งที่บางคนอาจไม่เคยได้เข้าใกล้เลยสักครั้ง สถานที่ที่เราอยู่ สิ่งที่เราทำอยู่ เส้นทางชีวิต นี่เป็นสิ่งที่เราเลือกจริงไหม หรือเราก็แค่ไหลไปตามกระแสของชีวิต
แต่ถ้าการอยู่ในกระแสแล้วมันทำให้คุณมีความสุข ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เราไม่จำเป็นต้องมีเป้าหมายหรือความชอบที่ยิ่งใหญ่ก็ได้หรือเปล่า แค่ชอบกินไอศกรีมหรือชอบอ่านหนังสือ มันพอจะทดแทนกันได้ไหม?
ในยามที่จอห์น ชายหนุ่มผู้หมดไฟในการใช้ชีวิต หลงทางอยู่บนทางสายเปลี่ยว มองไม่เห็นทั้งหนทางไป เส้นทางที่ผ่านมา แต่แล้วเขาก็พลันได้พบกับคาเฟ่ปริศนาแห่งหนึ่ง เมื่อแวะเข้าไปในนั้น เขาก็ได้พบเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความหมายและความอบอุ่น เป็นค่ำคืนหลงทางที่ที่จะเปลี่ยนชีวิตของจอห์นไปตลอดกาล
3.แม่มดกิกิผจญภัย 1 ตอน ไปรษณีย์ด่วนแม่มด
นี่คือเรื่องราวของการค้นหาตัวตนใหม่ ๆ ของเด็กหญิงคนหนึ่งในสถานที่ห่างไกลบ้าน เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเองและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิด
กิกิ แม่มดน้อยที่ต้องเดินทางจากบ้านพร้อมกับจิจิ แมวคู่หูที่เติบโตมาด้วยกัน ไปตามหาเมืองที่ยังไม่เคยมีแม่มดอยู่อาศัย แล้วใช้ชีวิตด้วยตัวเองตามธรรมเนียมเก่าแก่ของผู้สืบเชื้อสายแม่มด เธอลงหลักปักฐานที่เมืองใหญ่ริมทะเลและเปิดร้านไปรษณีย์ด่วนแม่มด ท่ามกลางสถานที่แปลกตาและผู้คนแปลกหน้า ไหนจะความรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อต้องห่างไกลจากพ่อแม่ กิกิได้สัมผัสความเป็นมนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ รู้จักความสุข ความผิดหวัง ความยินดี มุมมองต่อความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปและซับซ้อน
ความลำบากเหล่านี้ทำให้กิกิใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหา ได้รู้จักตัวเองมากกว่าวันเวลาที่ผ่านมา ตระหนักรู้ถึงตัวตน ศักยภาพที่มีอยู่แล้วข้างใน และภาคภูมิใจในตัวเองยิ่งกว่าครั้งไหน
-
Product on saleอ่านหนังสือเล่มนั้นด้วยกันไหม
฿435฿261 -
Product on saleหัวใจที่สูญหายและต้นไม้แห่งการเริ่มต้น
฿319฿160 -
Product on saleแม่มดกิกิผจญภัย ตอน ไปรษณีย์ด่วนแม่มด
฿295฿251 -
Product on saleเมื่อท้องฟ้าแจ่มใส ฉันจะออกไปพบเธอ
฿319฿191 -
Product on saleคาเฟ่สำหรับคนหลงทาง The Why Cafe’
฿229฿195 -
Product on sale
แท็ก
Related Content
มิลค์ – ณิชารีย์ ผาติทิต ไขความลับของการสังเกต
“นุนชี่ไม่ได้เป็นการสอนตรงๆ ว่า เอาล่ะ วันนี้เราจ…
เพราะเคยถูก ‘อารมณ์และความรู้สึก’ เล่นงานจึงไม่อยากให้ใครต้องต่อสู้ตามลำพัง
“พวกเราสังเกตเห็นว่าออฟฟิสที่ทำงานอยู่สนใจแต่เรื่อง ‘ปร…
มิโฮะ ซาตาเกะ (佐竹美保)ผู้วาดภาพประกอบแม่มดกิกิผจญภัย สร้างสรรค์ทุกตัวละครให้มีชีวิตชีวา
มิโฮะ ซาตาเกะ (佐竹美保) ผู้วาดภาพประกอบแม่มดกิกิผจญภัย เล่…