Spy x Family มังงะที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาสงครามเย็นในเยอรมนี จุดประกายให้เป็นจุดกำเนิดของครอบครัวฟอเจอร์และสายลับสนธยา

เรื่องราวว่าด้วยสองประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องตกอยู่ในความตึงเครียดทางการเมือง ได้แก่ ออสทาเนีย (ฝั่งตะวันออก) และเวสทาลิส (ฝั่งตะวันตก) เปรียบได้กับเยอรมนีที่มีกำแพงเบอร์ลินขวางกั้น และผู้เขียนยังเพิ่มรายละเอียดที่น่าสนใจลงไปอีกหลายอย่าง อาทิ องค์กร SSS ของ ออสทาเนีย ค่อนข้างคล้ายกับองค์กร SS

และในยุคสงครามเย็นเยอรมนีตะวันออก เด็กๆ ก็ได้รับการศึกษาที่ดีกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าออสทาเนียค่อนข้างสงบสุข และเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม รวมถึงอาหารการกินที่ดีด้วย

นอกจากนี้ตัวละครในซีซั่นล่าสุดที่ถูกเอ่ยถึงในตอน “Project Apple” รัฐมนตรีบรันซ์ ยังอ้างอิงมาจากนักการเมืองตัวจริงอย่าง วิลลี บรันท์ (Willy Brandt) บทแรกของหนังสือ “คิดแบบเยอรมัน เขาทำกันยังไง” สามารถฉายภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี และยังมีการกล่าวถึงบทบาทสำคัญของวิลลี บรันท์ อีกต่างหาก

หากถามคนเยอรมันที่อยู่ในวัยประมาณหกสิบตอนนี้ว่าอะไรเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเกี่ยวกับสงครามของพวกเขา หนึ่งในสิ่งที่อาจถูกพูดถึงก็คือ “การคุกเข่า” (Kniefall) ใน ค.ศ. 1970 และ บรันท์ เป็นคนที่กระทำสิ่งนี้ เขาคุกเข่าที่อนุสาวรีย์ท่ามกลางการประท้วงที่ย่านชาวยิวในวอร์ซอ

การแสดงท่าทางไถ่โทษอันน่าตะลึงนี้ทำให้เกิดความเห็นแตกแยก พวกอนุรักษนิยมเกลียดการคุกเข่านั้น บรันท์ยืนยันว่าเขาตัดสินใจอย่างกระทันหันตรงนั้น จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าการวางพวงหรีดไม่เพียงพอ “ภายใต้ความหนักอึ้งของเหยื่อฆาตกรรมนับล้าน ผมทำสิ่งที่มนุษย์จะทำเมื่อคำพูดไม่อาจถ่ายทอดความรู้สึกได้”

บรันท์ถูกเนรเทศช่วงสงครามและเป็นศัตรูของฮิตเลอร์ เขาได้ทำในสิ่งที่ชาวเยอรมันหลายคนไม่คิดฝันจะทำ นั่นคือคุกเข่าลงเพื่อขออภัย

Spy x Family เป็นเหมือนการนำประวัติศาสตร์มาประมวลใหม่ให้เข้าใจง่าย และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ในทางเดียวกันหนังสือ “คิดแบบเยอรมัน เขาทำกันยังไง” ก็เป็นการประมวลประวัติศาสตร์เยอรมันไว้อย่างน่าสนใจและครอบคลุม ว่าทำไมประเทศที่ผ่านเหตุการณ์บอกช้ำมามากมาย ทั้งยังเป็นผู้ร้ายตัวสำคัญ ถึงได้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง

ทำไมเยอรมันถึงทำได้ดีกว่าคนอื่น