How To มีความสุขในวันทำงาน

Published : มิถุนายน 12, 2023 | Blog | Editor :

เริ่มต้นวันจันทร์มาก็เหน็ดเหนื่อยกับโลกการทำงานแล้ว มีวิธีไหนบ้างไหม ? ที่จะทำให้เราแฮปปี้ขึ้นอีกนิด ฟื้นฟูพลังใจเพื่อให้การทำงานมีชีวิตชีวาขึ้นมา

ริชาร์ด นิโคลส์ แง้มให้เราได้รู้จักการควบคุมความคิดและอารมณ์ผ่านกระบวนการ ‘Cognitive Behavioral Therapy’ หรือ การบำบัดผ่านการพูดคุย บนความเชื่อที่ว่าเสียงพูดภายใน (Internal Dialogue) ของตัวเราเองคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมและอารมณ์

ดังนั้น เราจึงสามารถแก้ไขพฤติกรรมห่อเหี่ยวได้โดยเริ่มต้นจากการปรับจูนความคิดเสียก่อน

📚แค่ 15 นาที เปลี่ยนวันนี้ให้เป็นวันสุข
15 Minutes to Happiness

กระบวนการ ‘Cognitive Behavioral Therapy’ มีหลากหลายให้เลือกใช้ อย่างเช่น “การหยุดความคิด” หรือการบอกตัวเองในใจว่า หยุดก่อน เมื่อเริ่มรู้สึกว่าหมกมุ่นกับความคิดใดความหนึ่งมากจนเกินไป และค่อยๆ ฝึกเบนความสนใจไปที่อื่นแทน

แค่หยุดความคิดไม่พอ คุณลอง “นึกภาพกระบวนการ” ให้มากขึ้น เพราะแม้เราจะมุ่งมั่นไปหาเป้าหมายและความสำเร็จในอนาคต แต่กระบวนการระหว่างทางที่เราต้องก้าวผ่านก็สำคัญไม่แพ้กัน การทบทวนเกี่ยวกับวิธีการที่จะนำเราไปถึงเป้าหมาย รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เราใจเย็น ให้อภัยข้อผิดพลาดเป็น และมีความหวังต่อปลายทางของงานนั้นๆ

อีกวิธีคือ “การมองโลกในแง่ดี” ฟังดูเป็นไปได้ยากและน่าสงสัยว่าถ้ามองโลกในแง่ดีแล้ว จะเผลอละเลยข้อเท็จจริงบางอย่างไปรึเปล่า ? ทว่าในอีกมุมหนึ่ง คนที่คิดว่าตัวเองสามารถวาดฝันสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ ทำให้ชีวิตเป็นไปตามที่กำหนดได้ ไม่ขึ้นอยู่กับโชคหรือพรหมลิขิต แนวคิดแบบนี้จะช่วยให้เรามีความสุข

เช่นเดียวกับเวลานึกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น (Worst-Case Scenario) หากเราพยายามหาทางออก ทบทวนว่า ‘ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไรต่อ’ ‘มันอาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด’ หรือ ‘นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราผ่านไปไม่ได้หรอก’ จะทำให้เรามีกำลังใจสำหรับสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้


นอกจาก ‘Cognitive Behavioral Therapy’ แล้วอีกพาร์ทที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้ คือ การบำบัดให้หายจาก “อาการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง” หรือ Imposter syndrome หรือ การมองไม่เห็นความสามารถของตัวเอง อาการที่มนุษย์วัยทำงานเผชิญหน้ากันค่อนข้างเยอะ

คนที่ประสบความสำเร็จในระดับกลางๆ มักกลัวว่าจะถูกเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วตัวเองไม่ได้เก่งจริง หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรได้รับความสำเร็จนั้น ซึ่งคนที่ทำงานหนักและขยันมักจะมีอาการนี้มากกว่าคนที่ไม่ได้คาดหวังมาก

ขอแนะนำว่าคุณต้องหยุดความคิดกดข่มตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะเวลาเราเปรียบเทียบข้างในของเรากับข้างนอกของคนอื่น มันเป็น “การสร้างภาพที่ไม่มีอยู่จริงขึ้นมา” เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ เราจะต้องรู้สึกตัวให้มาก และระมัดระวังไม่ให้ภาพที่สร้างขึ้นเป็นผลเสียต่อความเคารพตนเอง

ท่อนหนึ่งในหนังสือกล่าวเอาไว้ว่า “เราสามารถตั้งเป้าหมายของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเดินตามคนอื่นเพื่อจะมีความสุข ความผิดพลาดและอุปสรรคเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าคุณต้องทำอะไร นั่นจะเป็นการเรียนรู้ ที่จะช่วยให้ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ ข้อบกพร่อง และเรียนรู้ที่จะเอาชนะมัน”

ความสำเร็จนั้นหอมหวาน และการทำงานก็เป็นด่านหนึ่งของชีวิต ซึ่งอาจเป็นด่านที่ยาวนาน ซับซ้อน หรือมีส่วนต่อจากปลายทางยาวออกไปอีกเรื่อยๆ เพื่อพิสูจน์ความเข้มแข็งของพวกเรา

แต่โปรดจำไว้ว่าเราทุกคนคือมนุษย์ธรรมดา
ที่ปวดหลังปวดไหล่ และรู้สึกขี้เกียจกับวันจันทร์ได้
คุณค่าของเราไม่ได้ลดลงไปง่ายดายขนาดนั้น
ใจเย็นกับตัวเอง ใช้ชีวิต และหันมาทำงานอย่างมีความสุขกันเถอะ

แท็ก


Related Content