Kizara Izumi คู่รักนักเขียนที่เชื่อว่าความตายทำให้ชีวิตมีความหมาย
Published : มกราคม 27, 2023 | Blog | Editor :

ความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
คิซาระ อิซึมิ (Kizara Izumi) เป็นนามปากกาที่ Izumi Tsutomu และ Mega Tokiko คู่สามี-ภรรยา ใช้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งสองคนมีงานเขียนบทละครโทรทัศน์และนิยายร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2003 ขอยกตัวอย่างบทละครหนึ่งเรื่องที่ถือว่าเป็นตำนานของซีรีส์ญี่ปุ่นในไทยนั่นคือ Nobuta wo produce หรือ ‘ปฏิบัติการโนบุตะ เปลี่ยนเธอให้สวยปิ๊ง’ ซึ่งฉายเมื่อปี 2005 ส่วนนิยายที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยก็ได้แก่ ‘ขนมปังของพรุ่งนี้ แกงกะหรี่เมื่อวันวาน’ และ ‘ระลอกคลื่นยามค่ำคืน’
นิยายทั้ง 2 เรื่อง มีประเด็นเกี่ยวกับความตายของตัวละครที่ช่วยขับเน้นความหมายของชีวิต คุณค่าที่ส่งต่อนั้นมีทั้งเรื่องราวดีๆ ที่ผู้ล่วงลับเคยทำหรือการตระหนักถึงช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของคนที่ยังมีลมหายใจ ถ้าพูดถึงความตายและการจากลาคงหนีไม่พ้นความรู้สึกเศร้าและหดหู่ แต่อย่าเพิ่งกลัวไปเลย เพราะผลงานของคิซาระ อิซึมิ ไม่ได้บีบคั้นให้ฟูมฟาย แต่จะพาเราไปทำความรู้จักความตายในแง่มุมใหม่ เป็นเรื่องเศร้าที่มีความหวังและแอบซ่อนความหมายในชีวิตที่มักถูกมองข้ามไป ที่ต้องการนำเสนอประเด็นนี้นั้นเป็นพราะตัวผู้เขียนเคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายกันมาแล้ว
ตอบตัวเองให้ได้ว่าอะไรคือความสุขในชีวิต แล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้น
ก่อนจะมาเขียนนิยาย พวกเขาเคยเป็นนักเขียนบทละครโทรทัศน์มาก่อน แต่ถ้าย้อนไปก่อนหน้านั้นอีก คุณเมกะเคยเป็นพนักงานขายในบริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยตำแหน่งงานที่ต้องพบเจอลูกค้าทั้งวันทำให้เธอต้องดูแลภาพลักษณ์ให้ดี สิ่งนี้เป็นเงื่อนไขในหน้าที่ที่เธอฝืนใจทำมาตลอดเวลา ความเบื่อหน่ายจากงานประจำทำให้เธอตัดสินใจไปเรียนเขียนบทและก็ได้พบคุณอิซูมิที่นั่น เมื่อสนิทสนมกันได้ขั้นหนึ่ง คุณอิซูมิจึงชวนคุณเมกะมาช่วยเขียนงานมังงะที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาไปเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งจึงตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน คุณเมกะเล่าว่าการคบกับคุณอิซูมิทำให้เธอรู้สึกสบายใจและสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มร้อยแบบที่ไม่เคยทำก่อน ความรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อยทำให้เธอตอบตัวเองได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธออยากใช้ชีวิตด้วย
ในปี 2003 ละครเรื่อง Suika ซึ่งเป็นผลงานการเขียนบทละครโทรทัศน์ร่วมกันเรื่องแรกได้ออนแอร์ แม้จะมีเรตติ้งไม่สูงนักแต่ได้รับคำชมไม่น้อย รวมถึงได้รับรางวัลด้วย เมกะเล่าถึงการใช้ชีวิตแต่ละวันในช่วงนั้นไว้อย่างน่าอิจฉาว่า “ตอนกลางวันได้นั่งจิบชา ตอนเย็นได้ห่มผ้าอุ่นๆ แล้วอ่านหนังสือ พอตกกลางคืนก็ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง”
จังหวะที่ทุกอย่างดูลงตัวไปหมดทั้งงานและความรัก ชีวิตก็ส่งบททดสอบเข้ามา เมื่อคุณอิซูมิประสบอุบัติเหตุและเกิดภาวะเลือดออกในสมอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันราวสายฟ้าที่ฟาดลงมาโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ความสุขในชีวิตคืออะไรกันแน่’ และก็ได้รับคำตอบระหว่างที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลนั่นเอง ตลอดช่วงเวลาเกือบครึ่งปีที่ต้องประคับประคองลมหายใจระหว่างความเป็นและความตายนั้น คุณเมกะคอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างสามีไม่เคยห่าง ความรักและความทุ่มเทที่ภรรยามอบให้อย่างเต็มเปี่ยมทำให้เขามั่นใจว่า ตราบใดที่ยังมีเธอคนนี้อยู่ข้างๆ ขอแค่ไม่ตายก็พอแล้ว สิ่งนี้คือความสุขที่ตามหานั่นเอง
ความทรงจำที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้
ผลงานที่เขียนโดยคิซาระ อิซึมิ นั้นมีลายเซ็นคือการนำเสนอความอบอุ่นและความผูกพันระหว่างตัวละครผ่านบทสนทนาธรรมดาๆ การแฝงความหมายลึกซึ้งของชีวิตไว้ในรายละเอียดรอบตัว สาเหตุที่ทำให้พวกเขาพยายามบอกคนอื่นๆ ว่า ความสุขเป็นเรื่องเรียบง่ายที่ไม่ต้องไขว่ขว้าอย่างยากลำบากนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่านิยมในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน
“มีเงินก็มีความสุข เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ตราบใดที่คุณยังเอาแต่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ผมคิดว่าคุณไม่มีทางมีความสุขได้หรอก มีแต่จะทุกข์ซะมากกว่า สังคมทุกวันนี้มีแต่การเปรียบเทียบตลอดเวลา เหมือนเราจ้องจะแข่งกันทำคะแนนไม่หยุดหย่อน สิ่งนี้ทำให้โลกอยู่ยากเหลือเกิน”
ทั้งสองคนมองว่าความเรียบง่ายและความสะดวกสบายเป็นเรื่องเดียวกัน ยิ่งพึ่งพาอุปกรณ์หรือมีขั้นตอนเยอะก็รังแต่จะเพิ่มความยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ความเรียบง่ายนั้นรวมไปถึงวิธีการทำงานของทั้งคู่ที่มีการแบ่งหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน พวกเขาจะเริ่มจากการพูดคุยเพื่อออกแบบตัวละครและฉากร่วมกันก่อน แล้วคุณเมกะจะลงมือเขียนบทดราฟต์แรกทั้งหมด จากนั้นคุณอิซูมิจะช่วยใส่รายละเอียดเพิ่มเติมให้เนื้อเรื่องมีสีสันอีกรอบ ไอเดียหลายอย่างมาจากคุณอิซูมิเป็นหลัก นั่นเพราะเขาเป็นนักอ่านตัวยงที่มักจะเก็บเกี่ยวประเด็นที่น่าสนใจจากหนังสือมาดัดแปลงให้เข้ากับเนื้อเรื่องได้อยู่เสมอ แหล่งค้นคว้าข้อมูลที่สำคัญที่สุดคือห้องนั่งเล่นที่ต่อเติมชั้นวางของจนเต็มกำแพงทุกด้าน หนังสือที่วางเรียงเบียดเสียดกันจนแน่นไปหมดทุกชั้นมีหลากหลายแนวให้เลือกหยิบมาอ่านเพื่อใช้ทำงาน
เพราะเวลาไม่ได้อยู่ในรูปแบบของนาฬิกาอย่างเดียว
การทำอะไรตามกระแสดูเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ยินยอมพร้อมใจจะเดินตาม แต่ถ้าวันหนึ่งที่ความนิยมเหล่านั้นหายไป ผลงานที่ทิ้งไว้ก็ไม่ต่างจากขยะ คิซาระ อิซึมิ ต้องการสร้างสรรค์ผลงานที่จะไม่จมหายไปในกระแสความนิยมที่มีอายุสั้นพวกนั้น ต้องเป็นผลงานที่ยังคงให้ความหมายแก่คนที่หยิบนิยายมาอ่านหลังจากเวลาผ่านไปนับสิบปี
“การต่อต้านค่านิยมเป็นเรื่องยากแต่เราสองคนก็อยากจะทำต่อไป”
เพราะมนุษย์ทุกคนต้องเผชิญหน้าความตายโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่กว่าจะไปถึงวันนั้น เรามาทำอะไรที่มีความหมายด้วยกันดีไหม หรือหลังจากที่วันนั้นมาถึงแล้ว เมื่อไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป เราทิ้งอะไรที่มีความหมายไว้ให้คนข้างหลังกันดีไหม
ครั้งหนึ่งเคยมีสื่อตั้งคำถามว่าทั้งที่เจอเรื่องหนักหนาในชีวิตมาขนาดนี้ ทำไมถึงยังทำงานอยู่อีก พวกเขาตอบว่า “เวลาที่คิดอะไรดีๆ ได้ขึ้นมาก็อดเขียนออกมาไม่ได้นี่นา”
-
Product on saleขนมปังของพรุ่งนี้ แกงกะหรี่เมื่อวันวาน
฿299฿254 -
Product on saleระลอกคลื่นยามค่ำคืน
฿299฿254
แท็ก
Related Content

‘ร้านหนังสือมือสอง’ ที่รอให้คุณไปค้นพบความรู้สึกมือหนึ่ง
“หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องของคนอมทุกข์อับโชคไม่กี่คนที…

เบเนเจสเซริต กลุ่มสตรีที่ควบคุมการเมืองอยู่เงียบๆ
Dune เต็มไปด้วยตัวละครและองค์กรลึกลับ แต่มีกลุ่มคนเพียง…

“คังชังแร (강창래)” ชายผู้บันทึกการทำอาหารที่แฝงความหวังในการมีชีวิต
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศร้าแค่ไหน หากเขียนออกมาเป็นตัวหนัง…