รู้ไหม! ว่าการแฮ็กถูกซ่อนมารูปแบบของการพัฒนาตนเอง
Published : ธันวาคม 2, 2022 | Blog | Editor :
เราทุกคนมีความเป็นแฮ็กเกอร์อยู่ในตัวทั้งนั้น!
เราเคยแฮ็กอะไรบางอย่าง ทั้งที่โดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว ถ้าพูดถึงคำว่าแฮ็ก หลายคนอาจจะยังทำหน้างง ๆ ว่า แล้วฉันไปทำสิ่งนั้นตอนไหน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘ทางลัด’ ‘สูตรลัด’ ‘เคล็ดลับ’ หรืออะไรก็ตามที่คุณใช้มันเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน คุณคงนึกออกทันทีว่า ใช่แล้ว! ฉันเคยทำสิ่งนี้
แต่เคยสงสัยไหมว่า วัฒนธรรมการแฮ็กมีที่มายังไง?
จริง ๆ คำว่า แฮ็กเกอร์ ถูกพูดถึงในอเมริกาประมาณช่วงปี 1980 ซึ่งหมายถึงพวกเซียนคอมพิวเตอร์ตัวแสบทั้งหลาย และคนส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่าเป็นผู้เจาะเข้าไปในคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับแฮ็กเกอร์ตัวจริง พวกเขามองว่าตัวเองคือผู้ที่แสวงหาหนทางในการแก้ปัญหาไม่ว่าจะกับเรื่องไหน ๆ
ความหมายของคำว่า แฮ็ก นั้นลื่นไหลมาเรื่อย ๆ จากเรื่องของเทคโนโลยีมาเป็นเรื่องของชีวิตประจำวัน และกลายมาเป็นเสี้ยวหนึ่งของแนวคิดในการพัฒนาตนเอง พวก “ไลฟ์แฮ็กเกอร์” นำเอากรอบความคิดที่เป็นระบบ ความอยากจะทดลอง และความชื่นชอบทางเทคโนโลยีมารวมเข้าด้วยกัน การแฮ็กจึงเป็นตั้งแต่วิธีแก้ปัญหาทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเป็นการแฮ็กเพื่อปรับปรุง/พัฒนาวิธีใช้ชีวิต เพื่อไปสู่เป้าหมายดี ๆ เช่น การมีสุขภาพดี การทำงานได้มากขึ้น การประหยัดเวลาได้มากขึ้น เรียกว่าเป็นแขนงหนึ่งของแนวคิดพัฒนาตัวเอง
ไลฟ์แฮ็กเกอร์จะบันทึกติดตามและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ อย่างมื้ออาหาร การเงิน การนอน การทำงาน อาการปวดหัว แล้วจะมาร่วมกันแบ่งปันเคล็ดลับการทำสิ่งเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือสังคมแบบไลฟ์แฮ็กเกอร์
ซึ่งจริงๆ แล้ววิถีชีวิตแบบที่ว่ามานี้ก็แทรกซึมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันโดยที่เราไม่ได้เอะใจอะไร อย่างการใช้แอปพลิเคชันจัดตารางเวลา การสวมแกดเจ็ตช่วยเตือนว่าต้องทำอะไรบ้าง การอ่านหนังสือเทคนิคพิชิตการนอน เพื่อให้มีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้น การเคลียร์อินบ็อกอีเมลให้เป็นศูนย์เสมอเพื่อจะได้ไม่รู้สึกติดค้าง เราวิ่งวุ่นไปกับการทำสิ่งเหล่านี้ เพราะอยากจะพัฒนาตนเอง และไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ นี่แหละที่เป็นส่วนหนึ่งของการแฮ็ก
การแฮ็กก็เหมือนการมองชีวิตให้เป็นระบบ เราอยากเพิ่มโปรแกรมบางอย่างลงไป เพื่อให้ชีวิตมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกนิดก็ยังดี ที่สำคัญคือการแฮ็กทำให้เราออกแบบไลฟ์สไตล์ในการใชชีวิตได้ด้วย เช่น ถ้าคุณอยากจะมีเวลาไปเที่ยวเล่นห้าวันต่อสัปดาห์ คุณก็คงจะทำทุกวิถีทาง เพื่อเคี่ยวเข็ญให้ตัวเองทำงานเสร็จตามเป้าภายในสองวัน
แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีเทคนิคอะไรมาบอกกับคุณว่า จงทำสิ่งนี้ซะ แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้น แต่จะจับมือคุณไปสนุกกับเกร็ดการแฮ็กที่ไม่เคยรู้มาก่อน และก็ไม่แน่หรอกว่าคุณอาจจะจีบสาวติดจากหนังสือเล่มนี้ หรือค้นพบว่าตัวเองอยากจะเป็นมาริเอะ คนโดะคนถัดไป
ถ้าคุณอยากจับมือสาวในเดตแรก ทำไมไม่ลองชวนเธอไปดูหนังผีละ
ถ้าคุณอยากมีแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก ทำไมไม่ลองลงโทษตัวเองด้วยการปรับเงินตัวเองละ
ถ้าคุณอยากดื่มน้ำให้ได้เยอะๆ ทำไมไม่ลองซื้อกระบอกน้ำอัจฉริยะที่เตือนได้ละ
ฟังดูแล้วการแฮ็กก็เป็นเรื่องที่ดีเลยใช่ไหม และบางอย่างก็ใช้ได้ผลจริงๆ แถมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนด้วย ดีเสียอีกที่มาช่วยเราแก้ปัญหาในด้านต่างๆ ได้ แต่ทำไมบางคนยิ่งแฮ็กยิ่งเหนื่อย? ยิ่งทำยิ่งดูซับซ้อน? หนังสือเล่มนี้มีคำตอบว่าทำไมบางวิธีการที่สุดโต่งให้ผลเสียมากกว่าผลดี เรามาเจาะลึกทุกๆ การแฮ็กไปด้วยกัน
แท็ก
Related Content
รุตเกอร์ เบรกแมน ผู้เขียน ‘ที่ผ่านมา มนุษย์ไม่เคยไร้หัวใจ’
คุณคิดว่าจะมีสักกี่คนที่จะลุกขึ้นมาโต้แย้งเกี่ยวกับความ…
เคล็บ(ไม่)ลับ กฎการฝึก ‘นุนชี่’ ที่ทำได้เลย
คนเกาหลีมีคำพูดว่า ‘นิสัยที่เราทำตอนอายุสามขวบจะอ…
มาถึงปี 2023 แล้ว แต่ทำไมบางคนยังคงเหยียดเพศอยู่
1ตัวอย่างที่โหดร้ายเสมอในการกดขี่ทางเพศ คือ มายาคติเกี่…